นกเขาชวาเสียงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในเอเชียอาคเนย์

“นกเขาชวาเป็นสัตว์ชั้นสูง มาจากความเชื่อถือของคนโบราณ ที่ถือว่านกเขาชวาเป็นนกที่ให้โชคให้ลาภ และถ้านกเขาชวาเสียงลักษณะไม่ดีก็จะให้โทษด้วย ไม่เหมือนนกชนิดอื่นที่เลี้ยงไว้ดูเล่นเพียงอย่างเดียว” นายบือราเฮง มามะ กล่าวกับเบนาร์นิวส์

นกเขาชวาเสียง ที่นิยมเลี้ยงในภาคใต้กันมานับร้อยๆ ปี มีเสียงขันที่ไพเราะ ซึ่งชาวบ้านในปักษ์ใต้ และนักเลงนกเขาในประเทศย่านเอเชียอาคเนย์ เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ต่างยังคงหลงไหลเสียงอันไพเราะ ยามนกเขาชวาโก่งคอขัน จนมีราคาซื้อขายกันถึงเรือนหมื่นเรือนแสนต่อตัว

นกเขาชวาเสียง ที่มีราคาแพงที่สุดตอนนี้ ชื่อ ซุปเปอร์แมน ราคา 3 ล้านบาท อยู่ที่อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา มีเสียงร้องไพเราะมาก แม้จะมีคนขอซื้อต่อในราคา 3 ล้าน เจ้าของยังไม่ขาย เพราะเขาถือว่าเป็นโชคของเขาที่ได้มา

ในเมื่อวันเสาร์-อาทิตย์ (20-21 กุมภาพันธ์ 2559) ที่ผ่านมา สมาคมนกเขาชวาเสียงจังหวัดภาคใต้ ได้จัดให้มี “มหกรรมการแข่งขันนกเขาชวาเสียงการกุศลจังหวัดปัตตานี” ที่สนามแข่งนก สมาคมนกเขาชวาเสียง หมู่ 4 ตำบลคลองมานิง อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี มีนกเขาชวาเสียงกว่า 1,700 ตัว มีนักเลงนกเขาจากมาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย กว่าสองร้อยราย ส่งนกเขาชวาเสียงเข้าประกวดในห้าประเภท คือ ประเภทเสียงเล็ก กลาง ใหญ่ รวมเสียง และประเภทดาวรุ่ง

แม้ว่ารางวัลใหญ่สุดเป็นเพียงรถจักรยานยนต์ แต่สำหรับบรรดานักเลงนกเขาถือว่าการเลี้ยงนกเป็นกิจกรรมที่เขาเหล่านั้นรัก ทั้งยังก่อให้เกิดรายได้จากการเพาะพันธุ์นกเขาชวาเสียงขายอีกด้วย รวมทั้ง ธุรกิจการขายอาหาร และอุปกรณ์เลี้ยงนก

นายวิชัย เรืองเริงสกุลฤทธิ์ นายกสมาคมนกเขาชวาเสียงจังหวัดภาคใต้ กล่าวว่า การเลี้ยงนกเขาชวาเสียงยังได้รับความนิยมมากขึ้นทุกปี มีการบรรจุงานแข่งขันนกเขาชวาเสียงอาเซียนลงในปฏิทินการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นอกจากนั้น ราคานกเขาชวาเสียงยังมั่นคง แม้ว่าราคายางจะตก ลูกนกที่เพาะพันธุ์จากพ่อแม่ที่มีสายพันธุ์ที่ดี จะซื้อขายกันในราคาตัวละถึงสองแสนบาท

อย่างไรก็ตาม นายดิเรก โดดะแซ ประธาน ชมรมนกเขาชวาเสียงประจำอำเภอจะนะ สงขลา กล่าวว่า ช่วงสองปีกว่าๆ มานี้ ชาวบ้านไม่สามารถส่งออกนกเขาไปให้ลูกค้ารายที่อยู่ไกลๆ ในมาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซียได้ เพราะทางสายการบินไม่ยอมให้นำสัตว์ทุกชนิดขึ้นเครื่อง นับตั้งแต่มีประกาศเฝ้าระวังไข้หวัดนก แม้ว่ามาตรการดังกล่าวได้ถูกยกเลิกไปแล้วก็ตาม การส่งนกทางอื่นที่ใช้เวลานานจะไม่คุ้มค่าเสี่ยงกับโอกาสการเสียชีวิตของนก ทำให้ชาวบ้านสูญเสียโอกาสสร้างรายได้นับร้อยล้านบาท