เจ้าหน้าที่ไทยเชื่อว่าคลิปแบ่งแยกดินแดนของผู้อ้างตนเป็นนักรบมูจาฮีดีนรีบาทอัลฟาฎอนี ไม่เกี่ยวกับกลุ่มเคลื่อนไหว
2015.03.03

หลังจากที่มีคลิปของผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นนักรบมูจาฮีดีนรีบาทอัลฟาฎอนี ประกาศแยกดินแดนปัตตานี ได้แพร่หลายทางโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ฝ่ายความมั่นคงวิเคราะห์ว่า คลิปดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องกับขบวนการแบ่งแยกดินแดนในภาคใต้ เป็นเพียงแค่การทำคลิปของตนเองของบุคคลที่แสดงตนว่าชื่อกูซัยค์เองเท่านั้น
หน่วยงานความมั่นคง ได้อ้างอิงถึงรายงานความเคลื่อนไหวของกลุ่มนักรบปลดปล่อยปัตตานี ที่เรียกตัวเองว่า “จูแว” ซึ่งเคลื่อนไหวอยู่ในต่างประเทศในนามกลุ่มบีไอพีพี ซึ่งเคยมีบทบาทร่วมโต๊ะพูดคุยระหว่างตัวแทนรัฐบาลไทยกับกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐ ที่นำโดยขบวนการบีอาร์เอ็น เมื่อปี 2556 ด้วย โดยจูแวผู้นี้ เขียนข้อความในเฟซบุ๊คว่า ไม่รับรู้เกี่ยวกับการมีอยู่ของนายกูซัยค์และขบวนการที่เขากล่าวอ้างถึง
คลิปดังกล่าวถูกแชร์ผ่าน “เฟซบุ๊ค” โซเชียลมีเดียชื่อดังในหมู่สังคมออนไลน์สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา โดยบุคคลในคลิปแต่งกายด้วยชุดสีโทนน้ำตาลอ่อน มีผ้าคลุมศีรษะปิดบังใบหน้า พูดด้วยภาษาอาหรับ ภาษายาวี และภาษาไทยสลับกันไป
สาระสำคัญในคลิปอ้างว่า เขาคือ กูซัยค์ ผู้นำขบวนการมูจาฮีดีน ลิเบอร์รัล อัลฟาฏอนี สืบเชื้อสายมาจากพระศาสดา เนื้อหาในคลิปนี้เป็นแถลงการณ์ครั้งที่ 1 ปลุกระดมให้ร่วมกันกับเขา หยิบจับมีด พร้า จอบ เสียม ขับไล่กลุ่มคนที่เขาเรียกว่า “กาเฟร์” หมายถึงคนนอกศาสนาอิสลาม ออกจากดินแดนที่เป็นของชาวมลายูปัตตานี
ส่วนคนมลายูที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐทุกระดับจงวางอาวุธและลาออก เช่นเดียวกับประชาชนชาวไทยพุทธทุกคนจงออกไปจากฟาฏอนีดารุสลาม หรือไม่ก็จ่ายภาษีแก่รัฐบาลฟาฏอนี พร้อมเสนออัตราภาษี คือ การบริจาคให้มัสยิดและโรงเรียนตาดีกาทุกแห่งในอัตราเดือนละ 1,250 บาท หรือปีละ 15,000 บาท พร้อมส่งสารถึงรัฐบาลไทยให้ถอนกำลังออกจากดินแดนนี้ และปล่อยตัวนักโทษความมั่นคงทุกคนภายในวันที่ 30 เมษายน 2558 มิฉะนั้นนักรบของเขาทุกคนพร้อมพลีชีพทุกวิถีทาง และไทยจะสูญเสียมากกว่าสามจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างแน่นอน
แหล่งข่าวระดับสูงจากหน่วยงานความมั่นคง กล่าวว่า ฝ่ายความมั่นคงได้ตรวจสอบคลิปวีดีโอดังกล่าวแล้ว ยืนยันได้ว่าน่าจะเป็นคลิปและขบวนการที่นายกูซัยค์อุปโลกน์ขึ้นมาเอง เนื่องจากไม่มีประวัติการเคลื่อนไหวมาก่อน และจากการตามรอยความเคลื่อนไหวของบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นนายกูซัยค์ในเฟซบุ๊ค พบว่ามีการแสดงความคิดเห็นในลักษณะกล่าวเกินจริง เช่นอ้างว่าตนเองสืบเชื้อสายมาจากศาสดา เป็นต้น
หน่วยงานความมั่นคงยังวิเคราะห์ว่า คลิปนี้มีความยาว 1.50 นาที น่าจะถ่ายทำผ่านโทรศัพท์มือถือโดยมีบุคคลอื่นถ่ายให้ เนื่องจากภาพมีลักษณะส่ายไปมา มีนายกูซัยค์ปรากฏตัวเพียงคนเดียว ผ้าคลุมที่ใช้คลุมหน้าและศีรษะเป็นสีส้มคล้ายจีวรพระ สถานที่ถ่ายทำเป็นพื้นที่ป่า ไม่มีการแสดงป้ายผ้าหรือสัญลักษณ์ใดๆ
จากการวิเคราะห์ลักษณะการพูด และภาษาที่ใช้ พบว่าพูดไทยค่อนข้างชัด สำเนียงน่าจะเป็นคนมลายูในจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่จมูกค่อนข้างโด่งลักษณะเหมือนคนตะวันออกกลาง อายุน่าจะประมาณ 20-30 ปี แต่ข้อมูลที่เคยแสดงความเห็นในเฟซบุ๊คอ้างว่ายังเรียนไม่จบ กำลังศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยเปิดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ และมีแหล่งพำนักในอินโดนีเซีย ซึ่งคาดว่าเป็นข้อมูลเท็จ
ชาวบ้านในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้รายหนึ่ง ให้ความเห็นว่า คลิปที่แผยแพร่อยู่ในขณะนี้เป็นคลิปที่หมิ่นศาสนา และไม่มีแก่นสารอะไร มองว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการขับไล่เจ้าหน้าที่และชาวไทยพุทธออกจากพื้นที่ภายในวันที่ 30 เมษายนนี้ เชื่อว่าคลิปดังกล่าวทำโดยกลุ่มที่มีแนวคิดสุดโต่ง ไม่มีเหตุผล แต่พยายามเชื่อมโยงเนื้อหากับท่าทีของกองทัพไทยที่เตรียมถอนทหารจากภาคอื่นออกจากพื้นที่
ขณะที่ นายอนุศาสน์ สุวรรณมงคล สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ อดีตสมาชิกวุฒิสภาจากจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า รู้สึกกังวลกับการเผยแพร่คลิปลักษณะนี้ในช่วงที่มีกระแสการแพร่อุดมการณ์ของกลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอเอส ซึ่งประเทศรอบบ้านไทยล้วนประสบปัญหานี้
ข้อกังวลของนายอนุศาสน์ สอดคล้องกับความวิตกของหน่วยงานความมั่นคงที่เกรงว่าจะมีบุคคลที่มีแนวคิดรุนแรง ซึ่งไม่สังกัดขบวนการใด ในลักษณะ “โฮมโกรว์น” หรือ “โลน วูลฟ์” จัดทำคลิปลักษณะนี้เผยแพร่อีกเพื่อเลียนแบบไอเอส จนเกิดกระแสไอเอสขึ้นในพื้นที่ชายแดนใต้ทั้งๆ ที่ในพื้นที่ไม่เคยมีปัญหานี้เหมือนกับประเทศเพื่อนบ้าน
ในขณะเดียวกัน ได้เกิดเหตุรุนแรงต่อเนื่องอีกสองครั้ง เป็นเหตุให้มีบาดเจ็บเกือบสิบราย ในตอนก่อนเที่ยงวันของวันที่ 3 มีนาคม ได้เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิงใส่เจ้าของร้านซ่อมรถจักรยายนต์ และชาวบ้าน ได้รับบาดเจ็บ 2 รายบริเวณ ม.3 ต.ท่าเรือ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เป็นเหตุให้ นายไสว ศรีกลิ่น อายุ 43 ปี และ นาย ชาลี ศรีปาน อายุ 38 ปี ถูกนำส่ง โรงพยาบาลโคก จ.ปัตตานี
ต่อมาเวลาไล่เลี่ยกัน ได้เกิดเหตุ ระเบิด บริเวณ หน้าร้านเรือนแก้ว บ้านบางโกระ ม.7 ต.ท่าเรือ อ.โคกโพธิ์ ซึ่งเป็นรถของเจ้าหน้าที่ อาสาสมัครรักษาดินแดนประจำอำเภอโคกโพธิ์ เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 7 ราย ทราบชื่อคือ นายมามะ ยุนุ้ย อายุ 37 ปี นายสูไฮมี เจ๊ะดาโอ๊ะ อายุ 35 ปี น.ส.นิเมาะ ยูนุอายุ 28 ปี นายพันธ์ ศรีปาน อายุ 65 ปี นางมัทนา ดีนายัง อายุ 30 ปี น.สุรินธร พุดสันสาหัด อายุ 28 ปีและ ร.ต.ท. เสรี สระทอง อายุ 45 ปี ทั้งหมดถูกสะเก็ดระเบิดนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลโคกโพธิ์จ.ปัตตานี
ส่วนประเด็นและสาเหตุเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่