กลุ่มนายทุนปะทะชาวเลราไวย์ บาดเจ็บกว่าสิบราย

ทีมข่าวเบนาร์นิวส์
2016.01.27
TH-seagypsy-620 ชาติพันธุ์ชาวเลในพื้นที่สร้างกรงดักปลา ที่หาดราไวย์ ภาคใต้ ประเทศไทย ภาพถ่ายเมื่อ 16 กุมภาพันธ์ 2556
เอเอฟพี

ในวันพุธ (27 ม.ค. 2559) นี้ ได้เกิดเหตุการปะทะกันระหว่างชาวบ้านในหาดราไวย์ และกลุ่มชายฉกรรจ์ ที่คาดว่าเป็นกลุ่มของเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินที่ฝ่ายชาวเลอาศัยอยู่ ที่ได้นำเครื่องจักรเข้าไปปรับพื้นที่ จนทำให้มีผู้บาดเจ็บกว่าสิบราย อิงตามรายงานของสื่อมวลชนในประเทศ

โดยในวันนี้ สำนักข่าวสิ่งแวดล้อมกรีนนิวส์ ได้รายงานว่า เหตุรุนแรงเกิดที่ชุมชนหาดราไวย์ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต เมื่อมีชายฉกรรจ์จำนวนกว่า 100 ราย พร้อมอาวุธ ปะทะกับชาวบ้านซึ่งเป็นชาวเลดั้งเดิม ประมาณ 50 คน ในขณะที่กลุ่มชาวบ้านกำลังจะเดินทางไปยื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อศูนย์ดำรงธรรม ศาลากลาง จังหวัดภูเก็ต เพื่อเรียกร้องสิทธิในการดำรงชีวิตของชาติพันธุ์ชาวเลในพื้นที่

ผลการปะทะกัน มีผู้หญิงและผู้สูงวัยได้รับบาดเจ็บกว่า 10 ราย ต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล 3 ราย ในจำนวนนี้มี 1 ราย ที่มีอาการสาหัสถึงกับหมดสติ

ในวันที่ 26 ม.ค. 2559 กลุ่มทุนซึ่งอ้างตัวว่ามีเอกสารสิทธิถูกต้อง ได้นำเครื่องจักรเข้ามาดำเนินการในพื้นที่ประกอบพิธีกรรมของชาวบ้าน พร้อมทั้งนำกำลังตำรวจและทหารปิดทางเข้าออก กระทั่งช่วงสายของวันที่ 27 ม.ค. 2559 ที่กลุ่มชายฉกรรจ์ได้นำกำลังเข้ามาในพื้นที่อีกครั้ง ได้นำรถสิบล้อบรรทุกหิน และรถแบคโฮ เข้ามาปิดกั้นทางเข้าออกที่ชาวบ้านใช้อยู่เป็นประจำ จนนำไปสู่การปะทะและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ

สำนักข่าวสิ่งแวดล้อมกรีนนิวส์ ได้สัมภาษณ์ นายสนิท แซ่ซั่ว ชาวบ้านผู้อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งได้กล่าวว่า ชายฉกรรจ์กลุ่มดังกล่าว คือคนงานของนายทุนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งต้องการให้ชาวบ้านยุติการต่อต้านการพัฒนาพื้นที่ชุมชนราไวย์

“เรื่องที่เกิดขึ้นได้สร้างความหวาดกลัวระลอกใหม่ เนื่องจากหลายปีที่ผ่านมาชาวบ้านถูกคุกคามหลายรูปแบบ และถึงแม้ว่าชาวบ้านจะถูกทำร้ายร่างกายหลายต่อหลายครั้ง ก็ยังไม่สามารถดำเนินคดีกับใครได้” นายสนิท กล่าวแก่สำนักข่าวสิ่งแวดล้อมกรีนนิวส์

ทางด้านนายไมตรี จงไกรจักร ผู้ประสานงานเครือข่ายกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเล กล่าวว่า ชาวบ้านในชุมชนซึ่งประกอบด้วยชนเผ่ามอแกน มอแกลน และอูรักลาโว้ย โดยพื้นที่ที่เกิดกรณีพิพาทเป็นพื้นที่ชายหาดสาธารณะที่ชาวเลใช้จอดเรือ เอาปลาขึ้นจากเรือ วางเครื่องมือประมง รวมทั้ง เป็นพื้นที่ประกอบพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ (บาลัย) ตามความเชื่อของชาวเลมายาวนานนับร้อยปี

นายไมตรี กล่าวอีกว่า ปัจจุบันพื้นที่บริเวณดังกล่าวถูกนายทุนกลุ่มหนึ่งฟ้องร้องขับไล่และปิดทางเข้าออก ทั้งยังห้ามไม่ให้ประกอบพิธีกรรมตามความเชื่อ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในการแก้ไขปัญหาโดยคณะกรรมการแก้ไขปัญหาความมั่นคงในที่อยู่อาศัย พื้นที่ทำกิน และพื้นที่ทางจิตวิญญาณของชุมชนชาวเล โดยมี พล.อ.สุรินทร์ พิกุลทอง เป็นประธาน

ทางด้าน ASTV ผู้จัดการ ได้รายงานว่า นายชาตรี หมาดสตูล ผู้แทนบริษัทบารอน เวิลด์ เทรด จำกัด ได้กล่าวว่า ทางบริษัท ได้นำเครื่องจักรกลมาปิดพื้นที่ไม่ให้บุคคลภายนอกเข้ามาในพื้นที่ เพื่อต้องการปรับไถพื้นที่ในการก่อสร้างวิลล่า จำนวน 17 ห้อง บนเนื้อที่ 33 ไร่ แต่ก็ทำไม่ได้สักครั้ง เนื่องจากถูกชาวไทยใหม่ขับไล่ตลอดเวลา

นายชาตรี กล่าวอีกว่า แม้จะมีการเจรจากันหลายแล้ว ก็ไม่สามารถตกลงกันได้ ซึ่งโฉนดที่ดินดังกล่าวมีการออกถูกตามกฎหมาย มีการตรวจสอบโฉนดดังกล่าวไปยังสำนักงานที่ดินภูเก็ตหลายครั้งแล้ว และมีการยืนยันว่าเอกสารสิทธิ์ดังกล่าวถูกต้องจริง และมีการขออนุญาตทางจังหวัดในการเข้าปรับพื้นที่ โดยทางจังหวัดก็อนุญาตให้เข้าพื้นที่ได้ สำหรับที่ดินดังกล่าวมีการซื้อขายกันมา 3 ครั้งแล้ว โดยครั้งนี้เป็นของบริษัทบารอนฯ

สำนักข่าวกรีนนิวส์ ยังได้รายงานว่า นายกฤษฏา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพื่อไม่ให้มีการปะทะเกิดขึ้นอีก

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง