แม่ทัพสั่งไล่ล่าคนร้ายที่โจมตีชุดคุ้มครองตำบลร่มไทร
2020.01.13
นราธิวาส

ในวันจันทร์นี้ พันเอก วัชรกร อ้นเงิน รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า แม่ทัพภาคที่ 4 ได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่จัดกำลังทั้งภาคพื้นดินและอากาศ เพื่อติดตามกลุ่มขบวนการก่อความไม่สงบที่เข้าโจมตีฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครองตำบลร่มไทร ในบ้านไอดีแย อ.สุคิริน จ.นราธิวาส จนเป็นเหตุให้ฝ่ายอาสาสมัครเสียชีวิตหนึ่งราย และบาดเจ็บอีก 7 ราย ส่วนฝ่ายคนร้ายเสียชีวิตหนึ่งราย เมื่อวานนี้
เมื่อก่อนเที่ยงของวานนี้ คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธสงคราม รวมทั้ง เครื่องยิงระเบิดแบบ M.79 ยิงโจมตีฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครองตำบลร่มไทร บริเวณบ้านไอดีแย ม.3 ต.ร่มไทร อ.สุคิริน จ.นราธิวาส ในขณะเจ้าหน้าที่ 1 ชุดปฏิบัติการ กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ภายในฐานปฏิบัติการ จนเกิดการปะทะกันขึ้น รวมทั้ง มีการปะทะกับหน่วยเจ้าหน้าที่ที่มาช่วยเหลืออีกระลอก เป็นเหตุให้อาสาสมัครเสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อ อส.อนุวัต กอเดร์ อายุ 34 ปี และได้รับบาดเจ็บ 7 ราย เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสุคิริน จำนวน 5 ราย โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก จำนวน 2 ราย
“ภายหลังทราบเหตุ พลโท พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้กล่าวแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บ พร้อมทั้งได้สั่งกำชับให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งรัดเข้าให้การช่วยเหลือเยียวยา และจัดการศพอย่างดีที่สุด ตลอดจนได้สั่งการให้หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส จัดกำลังเข้าให้การสนับสนุนพื้นที่เกิดเหตุอย่างเร่งด่วน และให้ทำการลาดตระเวนทางอากาศ เพื่อกดดันจำกัดเสรีในการปฏิบัติของผู้ก่อเหตุรุนแรงอย่างใกล้ชิด” พันเอกวัชรกร กล่าวในวันจันทร์นี้
พันเอกวัชรกร กล่าวว่า หลังการปะทะระลอกแรกที่ฐานปฏิบัติการฯ หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมนราธิวาสได้เข้าให้การช่วยเหลือ ชคต. จนเกิดการปะทะกันขึ้นอีกหลายระลอก และเมื่อตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบรอยเลือด คาดว่าน่าจะเป็นของคนร้ายบริเวณเนินเขาด้านหลังฐานปฏิบัติการ จึงได้จัดกำลังออกติดตามไล่ล่าอย่างใกล้ชิด ห่างออกไปประมาณ 100 เมตร พบคนร้าย 2 ราย ได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่จนเกิดการปะทะกันขึ้นอีกครั้ง เมื่อเสียงปืนสงบลงพบคนร้ายเสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อ นายอับดุลฮาดี อาบูดาโอ๊ะ อายุ 29 ปี เป็นสมาชิกระดับปฏิบัติการ มีหมาย ป.วิอาญา 2 หมาย ส่วนคนร้ายอีกรายหลบหนีไปได้ พร้อมกับนำอาวุธปืนของผู้เสียชีวิตไปด้วย
ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ยังคงปิดล้อมพื้นที่ดังกล่าว และเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนี เพื่อติดตามจับกุมบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มคนร้ายให้ได้โดยเร็วต่อไป พันเอกวัชรกร กล่าวเพิ่มเติม
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่คาดว่าการก่อเหตุในครั้งนี้น่าจะเป็นการกระทำของกลุ่มของนายซอและ มะเซ็ง ซึ่งเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ อ.สุคิริน จ.นราธิวาส และอาจจะเป็นการตอบโต้การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ จากการเปิดแผนยุทธการกดดันจำกัดเสรีผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ป่าเขาบริเวณ อ.สุคิริน จ.นราธิวาสและพื้นที่ใกล้เคียงในห้วงที่ผ่านมา
นอกจากนั้น ในบ่ายวันนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุปะทะสุคิริน นราธิวาส โดยแม่ทัพภาคที่ 4 ได้ตรวจสอบจุดเกิดเหตุบริเวณฐาน ชคต.ร่มไทร อย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนฟังบรรยายสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากเจ้าหน้าที่ พร้อมหารือกับทุกฝ่ายในการติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
หลังจากนั้น แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เข้าเยี่ยมปลอบขวัญให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ อส. ที่ได้บาดเจ็บ จำนวน 2 นาย ที่ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก ประกอบด้วย นายซาบรี ยะโก๊ะ ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณลำตัว แขนขา รู้สึกตัวดีพ้นขีดอันตราย และนายมนัส ซำเซ็ง อาการเบื้องต้นถูกสะเก็ดบริเวณใบหน้า ลำตัวและมีเศษเข้าในตาทั้ง 2 ข้าง รู้สึกตัวดีพ้นขีดอันตรายแล้วเช่นกัน โดยแม่ทัพภาคที่ 4 ได้มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาเบื้องต้น และเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายมุ่งมั่นร่วมกันปฏิบัติงาน โดยให้ทุกส่วนบูรณาการร่วมกัน เพื่อรักษาความปลอดภัย ให้กับพี่น้องประชาชนอย่างสุดกำลังความสามารถ เพื่อให้เกิดความมั่นคงในพื้นที่ต่อไป
นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เชิญดอกไม้และตะกร้าสิ่งของพระราชทานไปมอบให้แก่ สมาชิกโทซาบรี ยะโก๊ะ และสมาชิกเอกมนัส ซำเซ็ง ซึ่งนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส และ สมาชิกเอกซอลาวาตี มามุ สมาชิกธราเทพ อินกุ่ย สมาชิกอัลฮาฝีซ์ อารง สมาชิกสุกิฟลี เจ๊ะยะ และสมาชิกอนัส อารง ซึ่งนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลสุคิริน จ.นราธิวาส ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุคนร้ายบุกโจมตีฐาน ชคต. ร่มไทร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ พร้อมทั้งได้นำกระแสพระราชดำรัสความห่วงใยจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ กล่าวให้เจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดนทั้ง 7 นาย ได้รับทราบ ยังความปลื้มปิติแก่อาสารักษาดินแดนทั้ง 7 นาย ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมฯ ให้นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เชิญตะกร้าสิ่งของพระราชทานไปมอบให้แก่ ญาติของสมาชิกอนุวัฒน์ กอเดย์ ซึ่งเสียชีวิตอีกด้วย