ตำรวจพัทยาเผยอาจไม่ฟ้องกลุ่มชาวต่างชาติในคดีเล่นการพนัน
2016.02.05

พ.ต.อ. สุขทัศน์ พุ่มพันธ์ม่วง ผู้กำกับการสำนักงานตำรวจภูธรเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี เปิดเผยกับเบนาร์นิวส์วันนี้ (5 ก.พ. 2559) ว่า ปัจจุบันได้อนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหาสูงอายุชาวต่างชาติทั้ง 32 คนแล้วด้วยเงินประกัน 5,000 บาทต่อราย แต่ตำรวจกำลังรวบรวม และพิจารณาหลักฐานว่า จะส่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมดในข้อใดบ้าง
“ให้ประกันตัว และจะสรุปว่าฟ้องกับไม่ฟ้องในคดีไหนบ้าง จะฟ้องในเรื่องการจัดสถานที่ให้มีการเล่น(ไพ่) ไม่ได้ขออนุญาตให้ถูกต้อง”
ในเบื้องต้นเมื่อวันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่จากอำเภอบางละมุง และตำรวจพัทยาร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด ในโทษฐานเล่นการพนัน แต่เมื่อพิจารณาหลักฐานแล้ว อาจไม่ส่งฟ้องในข้อหานี้
“คงไม่ฟ้องข้อหาการพนัน คงจะฟ้องที่มีการจัดเล่นไพ่ รอสรุปสำนวนอีกทีครับ ทุกคนเราให้ความสะดวกประกันตัวหมด”
ขณะเดียวกันเมื่อทราบข่าวการจับกุม คุณหญิงชดช้อย โสภณพานิช ประธานที่ปรึกษาสมาคมกีฬาบริดจ์แห่งประเทศไทยได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ. สุขทัศน์ เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับการเล่นกีฬาบริดจ์ว่า การที่เจ้าหน้าที่ร่วมกันจับกุมผู้เล่นกีฬาบริดจ์ นับว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทย เพราะการเล่นไพ่บริดจ์ถือเป็นกีฬา ไม่น่าจะเข้าข่ายการพนัน ตามที่ตำรวจตั้งข้อหาในเบื้องต้น
โดยคุณหญิงชดช้อยกล่าวกับสื่อว่า การเล่นไพ่บริดจ์นั้น ไม่มีการเอาทรัพย์สินหรือเงินทองกัน แต่เป็นการแข่งขันเอาแต้มสูงสุด และใช้วิธีการประมวลผลในเครื่องคอมพิวเตอร์ ผู้มีแต้มสูงสุดจะเป็นผู้ชนะ โดยกีฬาบริดจ์ได้ถูกกำหนดให้อยู่ในพระราชบัญญัติการพนัน พุทธศักราช 2478 ต่อมาปี 2503 ได้มีการเพิ่มในกฎกระทรวง ฉบับที่ 17 ข้อ 13 ว่าให้จัดการเล่นขึ้นได้โดยไม่ต้องมีใบอนุญาต นอกจากนี้ กีฬาชนิดนี้ยังเป็นที่นิยม จนเคยถูกบรรจุในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์มาแล้ว
อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.สุขทัศน์ อธิบายถึงการจับกุมครั้งนี้เพิ่มเติมว่า
“เปรียบเทียบก็เหมือนโต๊ะสนุ๊กเกอร์ เหมือนที่ผมบอกคุณเล่นกีฬา แต่คุณเล่นไม่ถูกที่ ชมรมไม่มีการจดทะเบียน ไม่มีการขออนุญาตตั้งในพื้นที่ และมีการมั่วสุม”
โดยไพ่ที่ยึดได้ในครั้งนี้ยังพบว่า ไม่มีอากรแสตมป์ของกรมสรรพสามิต จึงถือว่าเป็นไพ่ผิดกฎหมาย
“โดนฟ้องปรับอีกแสนกว่าบาท (เพราะใช้ไพ่ที่ไม่ผ่านกรมสรรพสามิต)”
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์พัทยาเมล์ สมาคมบริดจ์จอมเทียน-พัทยา จัดตั้งขึ้นบริเวณชั้น 2 ของร้านอาหารอัลตอส(Altos) ถนนทัพพระยา เขตพัทยาใต้ โดยร้านอาหารแห่งนี้เปิดมานาน 15 ปีแล้ว เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
หนังสือพิมพ์ยังเพิ่มเติมอีกว่า การจับกุมครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่กว่า 50 คน ทั้งตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ของอำเภอบางละมุง และเจ้าหน้าที่จากหน่วยอื่นๆ ทั้งหมดบุกเข้าไปในร้านคล้ายกับฉากในภาพยนตร์ฮอลลีวูด
หลังจากการจับกุม เว็บไซต์ของสมาคมบริดจ์จอมเทียน-พัทยาได้แจ้งข่าวบนหน้าเว็บไซต์ว่า สมาคม “ปิดชั่วคราว” เพื่อขอทำใบอนุญาตสมาคมใหม่ และดำเนินขั้นตอนแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมด