รัฐบาลเชื่อระเบิดในปัตตานีไม่เกี่ยวกับเหตุระเบิด 7 จังหวัดใต้

นาซือเราะ และ นนทรัฐ ไผ่เจริญ
2016.08.24
ปัตตานี และ กรุงเทพฯ
TH-carbomb-pattani-1000 เจ้าหน้าที่ตรวจสถานที่เกิดเหตุระเบิดที่โรงแรมเซาเทิร์นวิว ในปัตตานี วันที่ 24 ส.ค. 2559
เบนาร์นิวส์

ในวันพุธ (24 สิงหาคม 2559) นี้ นายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยต่อสื่อมวลชนในทิศทางเดียวกันว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นในจังหวัดปัตตานีเมื่อกลางดึกของวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 39 รายนั้น ไม่มีความเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดภาคใต้ 7 จังหวัด หรือการกดดันเกี่ยวกับการพูดคุยเพื่อสันติสุข

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยต่อสื่อมวลชนต่อเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นว่า ปัจจุบัน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า) และ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กำลังดำเนินการสืบสวนอยู่ แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเหตุจูงใจของการก่อเหตุคือเรื่องใด

“เรื่องระเบิดมันเกิดของมันอยู่แล้ว ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่าไปกดดันเจ้าหน้าที่ เรื่องการพูดคุยเพื่อสันติภาพ ไม่ใช่พูดกัน 1-2 วัน หรือ 1-2 ปีแล้วจะจบ ระเบิดที่เกิดขึ้นไม่อยากให้มองว่าเชื่อมโยงกับครั้งที่ผ่านมา อย่ามองว่าเป็นเรื่องการขยายพื้นที่” พลเอกประยุทธ์ กล่าว

“เวลานี้ สิ่งที่รัฐบาลพยายามทำคือการพูดคุย ไม่ได้เจรจาเพราะไม่ได้ไปรบกับเขา ที่ผ่านมาเขาใช้อาวุธสงครามผิดกฎหมายอาญา แต่รัฐบาลก็เมตตามาตลอด ไม่ใช้ความรุนแรงกลับไป” นายกรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติม

ด้านพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า ส่วนตัวเชื่อว่าเหตุระเบิดที่ปัตตานี ไม่มีส่วนเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดภาคใต้ 7 จังหวัด โดยขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทหารในภาคใต้เพิ่มระดับการรักษาความปลอดภัยแล้ว

“เมื่อคืนนี้ก็มีระเบิดอยู่ 2 ลูก ลูกนึงระเบิดที่ใกล้ๆ ผับ ก็ไม่มีคนเสียชีวิต คล้ายๆ ดึงความสนใจ แล้วเอารถคาร์บอมบ์มาจอดอยู่ แล้วอีก 10 นาทีก็ระเบิด ครั้งที่ 2 มีคนเสียชีวิต 1 คน เราก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อป้องกัน เมื่อเช้าผมก็ให้ความคิดอะไรต่างๆ ให้กับแม่ทัพไป ความจริงแล้วทางพวกโต๊ะอิหม่ามทั้งหลายแหล่ก็ดีกับเราทุกอย่าง ก็มีเหตุการณ์เกิดขึ้นต้องไปดูว่าเป็นฝ่ายไหน” รองนายกรัฐมนตรีกล่าว

เหตุระเบิดที่จังหวัดปัตตานี เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 23.30 น. ของวันอังคารที่ผ่านมา โดยจุดแรกคือ เกิดขึ้นในห้องน้ำข้างลานจอดรถของโรงแรมเซาเทิร์นวิว ม.3 ต.รูสะมิแล อ.เมือง จ.ปัตตานี จุดที่สอง เกิดขึ้นที่หน้าโรงแรมเซาเทิร์นวิว เป็นการใช้คาร์บอมบ์ด้วยรถของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลปะกาฮะรัง โดยหลังเกิดเหตุพบผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ น.ส.อรพรรณ ศรีเรือนหัด อายุ 35 ปี ชาวอุบลราชธานี และบาดเจ็บ 39 คน

นายเอกชัย โลจนาภิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการบริษัทโรงแรมเซาเทิร์นวิว เปิดเผยว่า โรงแรมมีความสูง 9 ชั้น มีห้องพัก 80 ห้อง และห้องประชุม 9 ห้อง รวมทั้งผับ และห้องอาหาร โดยห้องพัก 70 ห้อง และห้องประชุมทั้งหมดได้รับความเสียหาย คาดว่ามูลค่าความเสียหายตกประมาณ 20 ล้านบาท และต้องใช้เวลาในการซ่อมแซมประมาณ 2 เดือน จึงจะสามารถกลับมาให้บริการตามปกติได้

คนร้ายใช้รถพยาบาลเป็นคาร์บอมบ์

ด้านนายสุริยะ อมรโรจน์วรวุฒิ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าวประณามการกระทำของผู้ก่อเหตุซึ่งใช้รถพยาบาลมาดัดแปลงเป็นคาร์บอมบ์

“คนร้ายขโมยรถโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลปะกาฮะรัง เวลา 3 ทุ่ม แล้วนำมาวางเป็นคาร์บอมบ์เวลา 4 ทุ่ม เขาใช้รถโรงพยาบาลมาก่อเหตุ ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน สมควรประณาม เพราะการทำแบบนี้ไม่มีอุดมการณ์ไหนเขาทำกัน” นายสุริยะกล่าว

ทางด้าน พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า ตนมั่นใจว่าคนร้ายมีเป้าหมายต้องการทำลายเศรษฐกิจที่กำลังมีการพัฒนา และขโมยรถของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลมาใช้ เพื่อลวงให้เจ้าหน้าที่รวมถึงประชาชนเข้าใจผิดว่า รถของโรงพยาบาลเข้ามาช่วยอพยพคนเจ็บจากระเบิดลูกแรก

นอกจากเหตุระเบิด 2 ลูก ที่โรงแรมเซาเทิร์นวิวแล้ว ได้เกิดระเบิดลูกที่ 3 ขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกันที่หน้าตลาดนัดบ่อทอง พื้นที่หมู่ 6 ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

สำหรับเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ครั้งนี้ นับเป็นการใช้คาร์บอมบ์ครั้งที่ 4 ของปี 2559 โดยครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 ก.พ. ที่ด้านหลังฐานปฏิบัติการหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 11 ปัตตานี อำเภอเมืองปัตตานี ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 11 ราย ครั้งที่ 2 เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ที่ อ.สุไหงโก-ลก ถนนด้านข้างปฏิบัติการหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 33 นราธิวาส ครั้งที่ 3 เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ก.ค. ที่ด่านตรวจเกาะหม้อแกง ต.ท่ากำชำ อ.หนองจิก และครั้งที่ 4 ในลานจอดรถหน้าโรงแรมเซาท์เทิร์น อำเภอเมืองปัตตานี เมื่อกลางดึกของวันอังคารที่ผ่านมา โดยหากนับตั้งแต่ปี 2547 ถือเป็นการใช้คาร์บอมบ์ครั้งที่ 50

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง